สำหรับนักดูหนังขาประจำและผู้ที่หลงใหลในภาพยนตร์ยุคเงียบ (silent film) คืนนี้ข้าพเจ้าอยากจะแนะนำผลงานชิ้นเอกจากปี 1928 เรื่อง “The Man Who Laughs” หรือชื่อไทยว่า “ชายผู้หัวเราะ”
“The Man Who Laughs” กำกับโดย Paul Leni ผู้กำกับที่มีฝีมือและมีชื่อเสียงโด่งดังในยุคภาพยนตร์เงียบ ตัวหนังสร้างจากนวนิยายของ Victor Hugo ซึ่งเป็นนักเขียนชื่อดังชาวฝรั่งเศสผู้แต่ง “Les Misérables” (รองเท้าแดง) และ “The Hunchback of Notre Dame” (โคลมโบโร)
เนื้อเรื่องของ “The Man Who Laughs” ดำเนินไปในยุคศตวรรษที่ 17 ของอังกฤษ และได้นำเสนอเรื่องราวของ Gwynplaine ชายหนุ่มผู้ถูกบิดพริ้วหน้าด้วยการมีรอยยิ้มแปลกประหลาดที่เกิดจากฝีมือของปีศาจผู้ชั่วร้าย
Gwynplaine ถูกทิ้งให้ต้องเดินทางไปยังยุโรป และได้พบกับ Dea แสดงโดย Mary Philbin หญิงสาวที่งดงามและเต็มไปด้วยความเมตตา Dea ตกลงที่จะแต่งงานกับ Gwynplaine แต่เธอก็ถูกขัดขวางจาก Ursus (แสดงโดย Julius Gillette)
Gwynplaine แม้จะถูกบิดเบือนใบหน้า แต่เขาก็มีหัวใจที่บริสุทธิ์และจิตใจที่มั่นคง เขาได้ใช้รอยยิ้มอันแปลกประหลาดของตนเพื่อปกปิดความเจ็บปวดและความทุกข์ของชีวิต และได้แสดงให้เห็นถึงความรักที่แท้จริง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นผลงานที่โดดเด่นในยุคภาพยนตร์เงียบ เนื่องจากมีการใช้เทคนิคการถ่ายทำที่ล้ำสมัยในเวลานั้น
ตัวอย่างเช่น การใช้ make-up ที่ทำให้ใบหน้าของ Gwynplaine ดูเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะรู้สึกเศร้าหรือเจ็บปวดก็ตาม นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังได้นำเสนอฉากที่สวยงามและ atmospheric
การวิเคราะห์เชิงลึก
-
เทคนิคการสร้างภาพ: “The Man Who Laughs” ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เงียบที่มีการออกแบบภาพที่ยอดเยี่ยม ตัวอย่างเช่น การใช้ make-up และแสงเงาเพื่อเน้นย้ำถึงความน่าสงสารของ Gwynplaine
-
การแสดง: Conrad Veidt ผู้แสดงเป็น Gwynplaine ได้มอบการแสดงที่ยอดเยี่ยม เขามีความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านสีหน้าและแววตา Mary Philbin ที่รับบท Dea ก็แสดงได้อย่างน่าประทับใจ เธอเป็นตัวแทนของความรัก ความเมตตา และความโชคดี
-
ดนตรีประกอบ: แม้ว่า “The Man Who Laughs” จะไม่มีเสียงในภาพยนตร์ แต่ดนตรีประกอบที่ถูกนำมาใช้ภายหลังในการฉายภาพยนตร์ ทำให้บรรยากาศของภาพยนตร์สมจริงและน่าจดจำยิ่งขึ้น ** ตัวอย่างฉากสำคัญจากภาพยนตร์
ฉาก | สรุป | ความหมาย |
---|---|---|
Gwynplaine แสดงความรัก | Gwynplaine ใช้ท่าทางและแววตาแสดงความรักต่อ Dea | แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสื่อสารอารมณ์ของ Conrad Veidt |
| การเผชิญหน้าระหว่าง Gwynplaine และ Ursus | Gwynplaine ปะทะกับ Ursus ที่ต้องการแย่ง Dea ไป | สร้างความตื่นเต้นและเป็นฉากสำคัญในการขับเคลื่อนพล็อตเรื่อง
สรุป
“The Man Who Laughs” เป็นภาพยนตร์เงียบที่ทรงคุณค่าและควรค่าแก่การดู ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอเรื่องราวที่น่าจดจำ พร้อมกับการแสดงที่ยอดเยี่ยม และเทคนิคการสร้างภาพที่ล้ำสมัย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์เงียบและต้องการสัมผัสประสบการณ์การดูหนังแบบโบราณ “The Man Who Laughs” คือตัวเลือกที่ดีที่สุด